เลือกก่อนใช้…ผลิตภัณฑ์แชมพูสระผมและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรง
คุณทราบหรือไม่ว่ายาสระผมและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตัน
ผมมัน และหลุดร่วงในที่สุด
สาเหตุมาจากสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
โดยสารอันตรายนี้จะไม่สามารถล้างออกได้โดยยาสระผมทั่วๆไป
เนื่องจากยาสระผมทั่วไปในท้องตลาดผลิตภัณฑ์จะทำงานแค่บริเวณเส้นผมแต่ไม่ได้ทำความสะอาดล้ำลึกถึงหนังศีรษะ
จึงทำให้สารเคมีตกค้างอยู่บนหนังศีรษะ ก่อให้เกิดการอุดตันบริเวณหนังศีรษะ
อาการหนังศีรษะมัน และการหลุดร่วงของเส้นผมก็จะเกิดขึ้นมาตามลำดับ
- สาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) เป็นสารลดแรงตึงผิว
แชมพูแทบทุกยี่ห้อในท้องตลาดมักจะใช้ (สารชะล้างราคาถูก ใช้ผสมในเจลอาบน้ำ
ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างรถ น้ำยาขัดพื้น เป็นต้น)
สารเคมีชนิดนี้ทำให้มีฟองมาก จึงทำหน้าที่ในการชะล้างสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินที่ติดอยู่บนเส้นผมได้หมดจด
แต่ความจริงแล้ว สารลดแรงตึงผิวชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้กับเส้นผม
เนื่องจากมีฤทธิ์ในการทำลายกระบวนการป้องกันผิวตามธรรมชาติของเรา
ซ้ำยังทำให้เกิดผดผื่นคัน ผิวแห้ง
อีกทั้งหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็อาจตกค้างอยู่ในผิวหนังจนก่อให้อันตราย
และยังเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ดังนั้น
คุณควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ฉลากระบุว่า “ “Sodium Lauryl
Sulfate Free” หรือ “Ammonium Lauryl Sulfate”
ส่วนสารอันตรายที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรง มีดังนี้
- สาร PVP film formers (Polyvinylpyrrolidone) สารพลาสติกเหมือนแผ่นฟิล์ม
ช่วยให้ผมอยู่ทรงเป็นประกาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อหนังศีรษะ
ทำให้เกิดการตกค้างและอุดตันของรูขุมขนบนหนังศีรษะ
ทำให้เซลล์ผมทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ ทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้ง่าย
เป็นสิวบนหนังศีรษะ และก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการขับเหงื่อบนหนังศีรษะ
- เอสดี แอลกอฮอล์
ทำให้เกิดการระคายเคืองที่หนังศีรษะ ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นๆมีแอลกอฮอล์อยู่ในปริมาณมาก
- สารกันแดดประเภท PABA (para –
aminobenzoic acid) เป็นสารกันแดดที่สามารถป้องกัน UVB ได้
ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายมาก จึงได้มีการหลีกเลี่ยงการใช้สารในกลุ่มนี้
เพราะว่าคนที่ใช้กันแดดที่มี PABA จะแพ้ได้ง่าย โครงสร้างโมเลกุลของ PABA จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้ง่ายและทำให้ครีมกันแดดเปลี่ยนสี
ดูไม่สวย ทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่เปรอะเปื้อน และที่สำคัญยัง
ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น คุณควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ฉลากระบุว่า “PABA
Free”
- ซิลิโคน (Silicone) เป็นสารเคมีที่ทำให้เส้นผม
มีความลื่นเป็นมันวาว สปริงตัว หวีง่าย
โดยซิลิโคนจะทำหน้าที่คล้ายฟิล์มพลาสติกบางๆ
เคลือบเส้นผมบนหนังศีรษะของเราไว้ เวลาหวีจึงให้ความรู้สึกว่าผมสลวย
ซึ่งในขณะเดียวกันสารซิลิโคนจะเข้าไปตกค้างอุดตันในรูขุมขนบนหนังศีรษะ
ทำให้เซลล์ผมทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ หลุดร่วงได้ง่าย
ทำให้มีปัญหาเรื่องการขับเหงื่อตามมา
และสุดท้ายจะเป็นตัวยาที่ใช้ในการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง
และสุดท้ายจะเป็นตัวยาที่ใช้ในการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง
- Minoxidil ซึ่งยาชนิดนี้มีทั้งที่เป็นประเภทน้ำและยาเม็ด
ซึ่งแฮร์โทนิคส่วนมากนิยมนำไปเป็นส่วนผสม ซึ่งอาจจะเข้มข้น 3% หรือ 5%
แล้วแต่ยี่ห้อ ในความเป็นจริง Minoxidil เป็นยาลดความดันในผู้ป่วยที่มีความดันสูงผิดปกติ
ซึ่งผู้ป่วยประเภทนี้เมื่อเกิดภาวะความดันผิดปกติขึ้นอาจมีผลกระทบต่อผมร่วงได้
ดังนั้นการใช้ยา Minoxidil รักษาจึงตรงจุด เพราะถ้าความดันที่ผิดปกติลดลงอยู่ในภาวะที่ปกติทั่วไปก็จะมีผลต่อการลดลงของผมร่วง
แต่เนื่องจากปัญหาผมร่วงมีสาเหตุที่มาจากปัจจัยหลายอย่างมากมายไม่ได้มาจาก
ความดันที่ผิดปกติเพียงอย่างเดียว กรณีที่มีการใช้ Minoxidil ในการรักษาผมร่วงและสาเหตุผมร่วงไม่ได้มาจากความดันที่ผิดปกติใดๆอาจเกิดผลข้างเคียงติดตามมาได้
เมื่อท่านใช้ไปสักระยะจะมีขนอ่อนๆขึ้นตามแขน หนวด ศีรษะ
ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้มากินเพื่อรักษาผมร่วงเป็นอันขาด เนื่องจากมีผลข้างเคียงมาก
ทำให้ความดันเลือดตก ยาที่นำมาใช้นั้น อยู่ในรูปของยาทาหนังศีรษะ
ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ บางรายอาจมีหนังศีรษะแห้งได้
การใช้ยาตัวนี้จะทำให้เส้นผมที่เล็กลง กลับคงตัวอยู่ได้ และมีอายุยืนยาวขึ้น
แต่ผลนี้จะอยู่ตราบเท่าที่ได้รับยา เมื่อหยุดยาผลนี้จะหายไป
- Finasteride ตัวยาตัวนี้ก็มีทั้งที่เป็นน้ำและยาเม็ด
เป็นยาสำหรับลดภาวะต่อมลูกหมากอักเสบในเพศชาย
มีส่วนในการลดฮอร์โมนเพศชายคือเทสโทสเตอโรนนั่นเอง
เมื่อรับประทานยานี้เข้าไปจะให้ผลคล้ายกับการรับประทาน Minoxidil แต่ผลข้างเคียงแตกต่างกัน
ตัวยา Finasteride ทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง
ถ้ารับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็จะมีผลทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาชนิดนี้
ฉะนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อยาสระผมและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม
ควรฉุกคิดซักนิดถึงส่วนประกอบที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ
เพื่อหนังศีรษะและเส้นผมที่มีสุขภาพดี